สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่แล้ว เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2561 โดยรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา ภายใน 30 วันซึ่งลูกจ้าง จะได้สิทธิดังนี้
1. ลากิจธุระจำเป็นได้ค่าจ้าง 3 วันทำงานต่อปี
2. ลูกจ้างหญิงตั้งครรภ์ลาก่อนคลอด หลังคลอดได้ 98 วัน (เดิมได้ 90 วัน)
3. กรณีนายจ้างมีการเปลี่ยนตัว เปลี่ยนนิติบุคคล หากลูกจ้างไม่ยินยอม สามารถรับค่าชดเชยพิเศษโดยถ้าทำงานครบ 20 ปี จะได้รับค่าชดเชย 400 วัน
4. ได้รับค่าชดเชยใหม่กรณีเลิกจ้าง จะเพิ่มขึ้นอีก 1 อัตราจาก 5 อัตรา คือ
-อัตราที่ 1 ลูกจ้างที่ทำงานครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 1 ปี ได้ค่าชดเชย 30 วัน
-อัตราที่ 2 ลูกจ้างที่ทำงานครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี ได้ค่าชดเชย 90 วัน
-อัตราที่ 3 ลูกจ้างทำงานครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 6 ปี จะได้รับค่าชดเชย 180 วัน
-อัตราที่ 4 ลูกจ้างทำงานครบ 6 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี ได้รับค่าชดเชย 240 วัน
-อัตราที่ 5 ลูกจ้างทำงานครบ 10 ปี แต่ไม่ครบ 20 ปี ได้รับค่าชดเชย 300 วัน
-อัตราที่ 6 ลูกจ้างทำงานครบ 20 ปีขึ้นไป จะได้รับค่าชดเชย 400 วัน
5. กรณีย้ายสถานประกอบการไปที่อื่น หากลูกจ้างไม่ตามไป ก็สามารถบอกเลิกสัญญาจ้างได้ และได้สิทธิชดเชยตาม 6 อัตราข้างต้น
6. กรณีค่าตอบแทน หากนายจ้างไม่จ่ายค่าตอบแทน ในบางอาชีพ ที่ทำงานเกินวลาปกติ ลูกจ้างจะต้องฟ้องขอ โดยของเดิมดอกเบี้ยให้ร้อยละ 7.5 ต่อปี แต่กฎหมายใหม่ให้ได้สูงสุดถึง 15 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
7. ให้สิทธิเท่าเทียมระหว่างหญิงชาย ลูกจ้างมีสิทธิเท่าเทียมกันในเรื่องค่าจ้าง ค่าตอบแทน คืออัตราจ้างในระดับเดียวกันหญิงชายต้องได้รับค่าจ้างเท่ากัน
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่แล้ว เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2561 โดยรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา ภายใน 30 วันซึ่งลูกจ้าง จะได้สิทธิดังนี้
1. ลากิจธุระจำเป็นได้ค่าจ้าง 3 วันทำงานต่อปี
2. ลูกจ้างหญิงตั้งครรภ์ลาก่อนคลอด หลังคลอดได้ 98 วัน (เดิมได้ 90 วัน)
3. กรณีนายจ้างมีการเปลี่ยนตัว เปลี่ยนนิติบุคคล หากลูกจ้างไม่ยินยอม สามารถรับค่าชดเชยพิเศษโดยถ้าทำงานครบ 20 ปี จะได้รับค่าชดเชย 400 วัน
4. ได้รับค่าชดเชยใหม่กรณีเลิกจ้าง จะเพิ่มขึ้นอีก 1 อัตราจาก 5 อัตรา คือ
-อัตราที่ 1 ลูกจ้างที่ทำงานครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 1 ปี ได้ค่าชดเชย 30 วัน
-อัตราที่ 2 ลูกจ้างที่ทำงานครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี ได้ค่าชดเชย 90 วัน
-อัตราที่ 3 ลูกจ้างทำงานครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 6 ปี จะได้รับค่าชดเชย 180 วัน
-อัตราที่ 4 ลูกจ้างทำงานครบ 6 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี ได้รับค่าชดเชย 240 วัน
-อัตราที่ 5 ลูกจ้างทำงานครบ 10 ปี แต่ไม่ครบ 20 ปี ได้รับค่าชดเชย 300 วัน
-อัตราที่ 6 ลูกจ้างทำงานครบ 20 ปีขึ้นไป จะได้รับค่าชดเชย 400 วัน
5. กรณีย้ายสถานประกอบการไปที่อื่น หากลูกจ้างไม่ตามไป ก็สามารถบอกเลิกสัญญาจ้างได้ และได้สิทธิชดเชยตาม 6 อัตราข้างต้น
6. กรณีค่าตอบแทน หากนายจ้างไม่จ่ายค่าตอบแทน ในบางอาชีพ ที่ทำงานเกินวลาปกติ ลูกจ้างจะต้องฟ้องขอ โดยของเดิมดอกเบี้ยให้ร้อยละ 7.5 ต่อปี แต่กฎหมายใหม่ให้ได้สูงสุดถึง 15 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
7. ให้สิทธิเท่าเทียมระหว่างหญิงชาย ลูกจ้างมีสิทธิเท่าเทียมกันในเรื่องค่าจ้าง ค่าตอบแทน คืออัตราจ้างในระดับเดียวกันหญิงชายต้องได้รับค่าจ้างเท่ากัน
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่แล้ว เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2561 โดยรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา ภายใน 30 วันซึ่งลูกจ้าง จะได้สิทธิดังนี้
1. ลากิจธุระจำเป็นได้ค่าจ้าง 3 วันทำงานต่อปี
2. ลูกจ้างหญิงตั้งครรภ์ลาก่อนคลอด หลังคลอดได้ 98 วัน (เดิมได้ 90 วัน)
3. กรณีนายจ้างมีการเปลี่ยนตัว เปลี่ยนนิติบุคคล หากลูกจ้างไม่ยินยอม สามารถรับค่าชดเชยพิเศษโดยถ้าทำงานครบ 20 ปี จะได้รับค่าชดเชย 400 วัน
4. ได้รับค่าชดเชยใหม่กรณีเลิกจ้าง จะเพิ่มขึ้นอีก 1 อัตราจาก 5 อัตรา คือ
-อัตราที่ 1 ลูกจ้างที่ทำงานครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 1 ปี ได้ค่าชดเชย 30 วัน
-อัตราที่ 2 ลูกจ้างที่ทำงานครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี ได้ค่าชดเชย 90 วัน
-อัตราที่ 3 ลูกจ้างทำงานครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 6 ปี จะได้รับค่าชดเชย 180 วัน
-อัตราที่ 4 ลูกจ้างทำงานครบ 6 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี ได้รับค่าชดเชย 240 วัน
-อัตราที่ 5 ลูกจ้างทำงานครบ 10 ปี แต่ไม่ครบ 20 ปี ได้รับค่าชดเชย 300 วัน
-อัตราที่ 6 ลูกจ้างทำงานครบ 20 ปีขึ้นไป จะได้รับค่าชดเชย 400 วัน
5. กรณีย้ายสถานประกอบการไปที่อื่น หากลูกจ้างไม่ตามไป ก็สามารถบอกเลิกสัญญาจ้างได้ และได้สิทธิชดเชยตาม 6 อัตราข้างต้น
6. กรณีค่าตอบแทน หากนายจ้างไม่จ่ายค่าตอบแทน ในบางอาชีพ ที่ทำงานเกินวลาปกติ ลูกจ้างจะต้องฟ้องขอ โดยของเดิมดอกเบี้ยให้ร้อยละ 7.5 ต่อปี แต่กฎหมายใหม่ให้ได้สูงสุดถึง 15 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
7. ให้สิทธิเท่าเทียมระหว่างหญิงชาย ลูกจ้างมีสิทธิเท่าเทียมกันในเรื่องค่าจ้าง ค่าตอบแทน คืออัตราจ้างในระดับเดียวกันหญิงชายต้องได้รับค่าจ้างเท่ากัน
094 551 4659
คุณกำลังเจอปัญหาเหล่านี้อยู่หรือเปล่า
อยากทำบัญชี-ภาษีให้ถูกต้อง
แต่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นอย่างไร
ต้องการเสียภาษีน้อยๆ แบบถูกกฎหมาย
ต้องการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีถูกหัก ณ ที่จ่าย
สำนักงานบัญชีไม่ให้คำปรึกษา ไม่ช่วยแก้ปัญหา
ไม่นำส่งภาษีให้
อยากได้สำนักงานบัญชีที่ทำงานโปร่งใส ตรวจสอบได้
โทรหาเราได้เลยครับ
094-5514659
Services Office
สำนักงานเสมือน - เช่าที่อยู่ทำธุรกิจ
ในอำเภอเมืองนครปฐม
แพคเกจซื้อสัญญาเช่า 1 ปี
-
จดทะเบียนบริษัทอย่างเดียว ราคา1,800 บาท/เดือน
-
จดทะเบียนบริษัท และจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคา 2,800 บาท/เดือน
แพคเกจนี้รวม :
-
ที่อยู่สำหรับจดทะเบียนบริษัท
-
เบอร์โทรศัพท์สำนักงาน พร้อมพนักงานรับสาย
-
ที่อยู่สำหรับ รับ/ส่งจดหมายหรือพัสดุ
-
จดทะเบียนบริษัท หรือ ย้ายเข้า ฟรี!
สิ่งที่คุณจะได้รับจากเราขั้นต้น
-
โปรแกรมเปิดบิลออนไลน์
-
การวางระบบ เอกสารรับ-จ่าย
-
วิธีการทำเอกสารอย่างไรให้สรรพากรยอมรับ
-
การควบคุม เอกสารรับ-จ่ายเงิน ด้วยเงินสด
-
วิธีการออกหนังสือรับรองหักภาษี ณ ที่จ่าย
-
การป้องกันค่าใช้จ่ายต้องห้าม
ทีมงานสมาร์ทไลฟ์แอคเคาท์ติ้ง
-
ผู้ทำบัญชี-ภาษี (CPD)
-
ผู้สอบบัญชีภาษีอากร (TA)
-
ผู้ตรวจสอบภายใน (CPIAT)
-
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA)
-
ผู้ทรงคุณวุฒิ, วิทยากร, ผู้เชี่ยวชาญภาษี, (Dr.)
-
นักตรวจสอบภาษีชำนาญการ (อดีตสรรพากร)
วิศัยทัศน์ และนโยบายของเรา
วิสัยทัศน์ : ก้าวทันยุคไทยแลนด ์ 4.0 นำซอฟแวร์ที่ทันสมัยมาปรับใช้ เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างถูกต้อง ทันเวลา และส่งมอบงานที่มีคุณภาพอย่างมืออาชีพด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
นโยบายคุณภาพ : ทีมงานสมาร์ทไลฟ์แอคเคาท์ติ้ง มุ่งมั่นให้บริการด้านวิชาชีพบัญชี ให้คำปรึกษาด้านภาษีอากร โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ ทำงานอยู่บนพี้นฐานความถูกต้องตามกฎหมาย ดังสโลแกน "ถูกต้องพร้อมประหยัดแบบถูกกฎหมาย"